“วนอุทยานแห่งชาติพนมสวายได้มีการสำรวจทั่วบริเวณวนอุทยานพบว่า มีต้นกล้วยไม้ป่าอยู่เป็นจำนวนมาก ทางวนอุทยานได้จัดต้นกล้วยไม้ป่า มาติดไว้ตามต้นไม้ต่างๆ ริมถนน ริมลานจอดรถบ้าง วนอุทยานพนมสวาย ถือว่าเป็นวนอุทยานเฉลิมพระเกียรติแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งในเขตวนอุทยานนั้นได้ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาสวาย ซึ่งประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 555 (พ.ศ.2516) มีเนื้อที่ประมาณ 2475 ไร่ กรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2527 พืชพรรณและสัตว์ป่า ซึ่งอาจเป็นที่สนใจของผู้ที่ต้องการศึกษาธรรมชาติ ในวนวนอุทยานแห่งชาติพนมสวาย”
รูปภาพ ทิวทัศน์จากบนพนมสวาย
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจภายในวนอุทยาน
เป็นสถานที่สำคัญต่างๆ ทางด้านศาสนา เพื่อให้ผู้ที่แวะเวียนมาเที่ยวชมได้กราบไหว้
สักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อกันว่าได้คุ้มครองอยู่ตามในสถานที่ต่างๆ ณ
พนมสวายที่แห่งนั้น
"พนมกรอล"
หรือเขาคอก มีความสูงประมาณ 150 เมตร เป็นที่ตั้งศาลาอัฏฐมุข ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง
ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2470 โดยพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา
เดิมทีประดิษฐานอยู่บนเขาชาย ภายหลังได้มีการนำมาประดิษฐานที่ศาลาอัฏฐะมุข ในปี
พ.ศ. 2525 พนมกรอลยังเป็นที่ตั้งสถูปเจดีย์
บรรจุอัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล ซึ่งถือได้ว่าเป็นอนุสรณ์สถานพระราชวนาราม
ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเขาสวายมากราบไหว้ได้ทุกเมื่อ และพนมกรอลยังมีศาลเจ้าแม่กวนอิม
ในอดีตบนภูเขานี้จะมีศิลาแลงวางเรียงกันเป็นชั้นๆ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 1 เมตร ลักษณะคล้ายคอก จึงเรียกกันว่า "เขาคอก" ปัจจุบันร่องรอยของศิลาแลงดังกล่าวยังคงอยู่
รูปภาพแสดง ที่ตั้งสถูปเจดีย์ บรรจุอัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล
รูปภาพ สถานที่สักการะศาลเจ้าแม่กวนอิม
“พนมเปร๊าะ”
แปลว่า "เขาชาย" มีความสูงประมาณ 210 เมตร
เป็นที่ประดิษฐาน
พระพุทธสุรินทร์มงคล
สิ่งศิกดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองสุรินทร์ เป็นพระพุทธรูปนั่งปางประทานพร
หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก มีหน้าตักกว้าง 15 เมตร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามไว้ โดยสร้างแล้วเสร็จในเดือนมกราคม พ.ศ. 2520
ดำเนินการโดยพุทธสมาคมจังหวัดสุรินทร์ นอกจากจะมีพระพุทธสุรินทร์มงคลแล้วยังมีพระพุทธรูปองค์ดำและปราสาทหินเขาพนมสวาย ภายในบริเวณวนอุยานพนมสวายให้มีภูมิทัศน์สวยงามยิ่งขึ้น
การชมวิวทิวทัศน์บนยอดพนมเปร๊าะ จะสามารถมองเห็นพนมรุ้ง
และเขากระโดงได้ที่ด้านหลังพระพุทธสุรินทร์มงคล จนเห็นเทือกเขาพนมดงรัก และ
เขาพระวิหาร
รูปภาพพระพุทธสุรินทรมงคลและพระพุทธรูปองค์ดำ/ รูปภาพ บันไดระฆังพันใบ
"พนมสรัย"
แปลว่า "เขาหญิง" ที่มีความสูง 220
เมตร เป็นที่ตั้งวัดพนมศิลาราม
มีตำนานเรื่องเล่าในอดีตสืบทอดกันมาเชื่อว่ามีถ้ำมหาสมบัติ สระน้ำโบราณ และเป็นที่อยู่ของเต่าศักดิ์สิทธิ์
2 ตัว ซึ่งต่อมาอพยพหนีภัยลงจากเขา
แต่ไปได้ถึงเพียงไหล่เขาก็ต้องกลายเป็นหิน
เชื่อว่าหากใครลบหลู่หรือปีนป่ายบนเต่าหินศักดิ์สิทธิ์นี้จะเกิดภัยพิบัติแก่ตนเองและครอบครัว
บนยอดพนมสรัยจะมีสิ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ คือ พระพุทธรูปปางออกผนวช
พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร พระพุทธรูปปางไสยาสน์ พระพุทธรูปปางสมาธิ พระพุทธรูปปางลิไลยกะปร
และพระพุทธปางนาคปรก
รูปภาพ พระพุทธรูปปางต่างๆ บนพนมสรัย
บ่อขมิ้น เป็นบ่อหินธรรมชาติ
กว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 1 เมตร
ในอดีตจะมีน้ำสีเหลืองทองคล้ายขมิ้นขังอยู่ตลอดปี
โดยไม่ทราบที่มากระทั่งเมื่อมีผู้คนเดินทางมาชนบ่อขมิ้นเป็นจำนวนมาก
บางคนก็โยนสิ่งของลงไปในบ่อ ทำให้สีของน้ำที่เหมือนขนิ้มได้จางหายไปในที่สุด
รูปภาพ บ่อขมิ้น
ลานหินล้านปี เป็นพื้นที่ลานหินกว้างท่ามกลางโอบกอดของป่าแคระ มีหินเรียบเรียงติดต่อกันเป็นจำนวนมากทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงาม ตามจิตนาการของผู้พบเห็น
รูปภาพ ลานหินล้านปี
ปากปล่องภูเขาไฟ มีลักษณะ แปลก
เป็นสระน้ำโค้งไปโค้งมาอยู่เชิงเขาพนมเปร๊าะ เป็นสระน้ำที่มีน้ำตลอดปี
สามารถมองเห็นเมื่อขึ้นไป สักการะพระพุทธสุรินทรมงคล
และมองมาทางเชิงเขาทางด้านขวามือหรือทิศไต้ จะเห็นสระน้ำ ที่อยู่กลางป่า
ไม่ใช่สระใหญ่ที่อยู่ในหมู่บ้าน สถิติการระเบิดอยู่ที่ 52 ครั้ง
รอยเท้าหลวงตาพรหม เป็นปรากฏการณ์ทางธรณี
ที่ไม่มีคำอธิบายชัดเจนตามตำนานเล่าว่า หลวงตาพรหมเป็นคนโบราณที่มีรูปร่างใหญ่โตมาก
ได้หาบหินผ่านมาถึงบริเวณเขาสวายไม้คานเกิดหัก
หินที่หาบมาก็หล่นมากองกันจนกลายเป็นเขาสวาย
รอยเท้าหลวงตาพรหมในอดีตได้มีผู้คนค้นพบหลายจุดด้วยกันแต่ในปัจจุบันไม่มีใครทราบชัดเจนว่ามีผู้ใดบ้าง
รูปภาพ ปากปล่องภูเขาไฟ รูปภาพรอยเท้าหลวงตาพรหม
สถานที่อื่นๆ เช่น บ่อสัมฤทธิ์
บ่อสกัด น้ำตกโตงใหญ่ น้ำตกผาดอกบัว ผาชมจันทร์ ผาดอกบัวรูปปั้นพุทธประวัติ(บริเวณวัดพนมศิลาราม)
บันไดนาคขึ้นศาลาอัฐมุข
ซุ้มประตูวนอุทยานพนมสวาย เป็นซุ้มประตูที่มีความเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของวนอุทยานพนมสวาย
ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยขอมโบราณ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2548-2549
โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในปี 2548 เพื่อพัฒนาพื้นที่เขาสวายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์
รูปภาพซุ้มประตูวนอุทยานพนมสวาย