วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สถานที่เที่ยวชมกราบไหว้ สักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนเขาสวาย

สถานที่กราบไหว้ สักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนเขาสวาย
          วนอุทยานแห่งชาติพนมสวายได้มีการสำรวจทั่วบริเวณวนอุทยานพบว่า มีต้นกล้วยไม้ป่าอยู่เป็นจำนวนมาก ทางวนอุทยานได้จัดต้นกล้วยไม้ป่า มาติดไว้ตามต้นไม้ต่างๆ ริมถนน ริมลานจอดรถบ้าง วนอุทยานพนมสวาย ถือว่าเป็นวนอุทยานเฉลิมพระเกียรติแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งในเขตวนอุทยานนั้นได้ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาสวาย ซึ่งประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 555 (พ.ศ.2516) มีเนื้อที่ประมาณ 2475 ไร่ กรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2527 พืชพรรณและสัตว์ป่า ซึ่งอาจเป็นที่สนใจของผู้ที่ต้องการศึกษาธรรมชาติ ในวนวนอุทยานแห่งชาติพนมสวาย”

รูปภาพ ทิวทัศน์จากบนพนมสวาย

            ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจภายในวนอุทยาน เป็นสถานที่สำคัญต่างๆ ทางด้านศาสนา เพื่อให้ผู้ที่แวะเวียนมาเที่ยวชมได้กราบไหว้ สักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อกันว่าได้คุ้มครองอยู่ตามในสถานที่ต่างๆ ณ พนมสวายที่แห่งนั้น

             "พนมกรอล" หรือเขาคอก มีความสูงประมาณ 150 เมตร เป็นที่ตั้งศาลาอัฏฐมุข ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2470 โดยพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา เดิมทีประดิษฐานอยู่บนเขาชาย ภายหลังได้มีการนำมาประดิษฐานที่ศาลาอัฏฐะมุข ในปี พ.ศ. 2525 พนมกรอลยังเป็นที่ตั้งสถูปเจดีย์ บรรจุอัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล ซึ่งถือได้ว่าเป็นอนุสรณ์สถานพระราชวนาราม ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเขาสวายมากราบไหว้ได้ทุกเมื่อ และพนมกรอลยังมีศาลเจ้าแม่กวนอิม ในอดีตบนภูเขานี้จะมีศิลาแลงวางเรียงกันเป็นชั้นๆ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 1 เมตร ลักษณะคล้ายคอก จึงเรียกกันว่า "เขาคอก" ปัจจุบันร่องรอยของศิลาแลงดังกล่าวยังคงอยู่

 รูปภาพแสดง ที่ตั้งสถูปเจดีย์ บรรจุอัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล

รูปภาพ สถานที่สักการะศาลเจ้าแม่กวนอิม

                “พนมเปร๊าะ” แปลว่า "เขาชาย" มีความสูงประมาณ 210 เมตร เป็นที่ประดิษฐาน
พระพุทธสุรินทร์มงคล สิ่งศิกดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองสุรินทร์ เป็นพระพุทธรูปนั่งปางประทานพร หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก มีหน้าตักกว้าง 15 เมตร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามไว้ โดยสร้างแล้วเสร็จในเดือนมกราคม พ.ศ. 2520 ดำเนินการโดยพุทธสมาคมจังหวัดสุรินทร์ นอกจากจะมีพระพุทธสุรินทร์มงคลแล้วยังมีพระพุทธรูปองค์ดำและปราสาทหินเขาพนมสวาย ภายในบริเวณวนอุยานพนมสวายให้มีภูมิทัศน์สวยงามยิ่งขึ้น การชมวิวทิวทัศน์บนยอดพนมเปร๊าะ จะสามารถมองเห็นพนมรุ้ง และเขากระโดงได้ที่ด้านหลังพระพุทธสุรินทร์มงคล จนเห็นเทือกเขาพนมดงรัก และ เขาพระวิหาร

                           รูปภาพพระพุทธสุรินทรมงคลและพระพุทธรูปองค์ดำ/ รูปภาพ บันไดระฆังพันใบ

              "พนมสรัย" แปลว่า "เขาหญิง" ที่มีความสูง 220 เมตร เป็นที่ตั้งวัดพนมศิลาราม มีตำนานเรื่องเล่าในอดีตสืบทอดกันมาเชื่อว่ามีถ้ำมหาสมบัติ สระน้ำโบราณ และเป็นที่อยู่ของเต่าศักดิ์สิทธิ์ 2 ตัว ซึ่งต่อมาอพยพหนีภัยลงจากเขา แต่ไปได้ถึงเพียงไหล่เขาก็ต้องกลายเป็นหิน เชื่อว่าหากใครลบหลู่หรือปีนป่ายบนเต่าหินศักดิ์สิทธิ์นี้จะเกิดภัยพิบัติแก่ตนเองและครอบครัว บนยอดพนมสรัยจะมีสิ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ คือ พระพุทธรูปปางออกผนวช พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร พระพุทธรูปปางไสยาสน์ พระพุทธรูปปางสมาธิ พระพุทธรูปปางลิไลยกะปร และพระพุทธปางนาคปรก 

รูปภาพ พระพุทธรูปปางต่างๆ บนพนมสรัย

            บ่อขมิ้น เป็นบ่อหินธรรมชาติ กว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 1 เมตร ในอดีตจะมีน้ำสีเหลืองทองคล้ายขมิ้นขังอยู่ตลอดปี โดยไม่ทราบที่มากระทั่งเมื่อมีผู้คนเดินทางมาชนบ่อขมิ้นเป็นจำนวนมาก บางคนก็โยนสิ่งของลงไปในบ่อ ทำให้สีของน้ำที่เหมือนขนิ้มได้จางหายไปในที่สุด

รูปภาพ บ่อขมิ้น

           ลานหินล้านปี เป็นพื้นที่ลานหินกว้างท่ามกลางโอบกอดของป่าแคระ มีหินเรียบเรียงติดต่อกันเป็นจำนวนมากทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงาม ตามจิตนาการของผู้พบเห็น

รูปภาพ ลานหินล้านปี

              ปากปล่องภูเขาไฟ  มีลักษณะ แปลก เป็นสระน้ำโค้งไปโค้งมาอยู่เชิงเขาพนมเปร๊าะ เป็นสระน้ำที่มีน้ำตลอดปี สามารถมองเห็นเมื่อขึ้นไป สักการะพระพุทธสุรินทรมงคล และมองมาทางเชิงเขาทางด้านขวามือหรือทิศไต้ จะเห็นสระน้ำ ที่อยู่กลางป่า ไม่ใช่สระใหญ่ที่อยู่ในหมู่บ้าน สถิติการระเบิดอยู่ที่ 52 ครั้
          รอยเท้าหลวงตาพรหม เป็นปรากฏการณ์ทางธรณี ที่ไม่มีคำอธิบายชัดเจนตามตำนานเล่าว่า หลวงตาพรหมเป็นคนโบราณที่มีรูปร่างใหญ่โตมาก ได้หาบหินผ่านมาถึงบริเวณเขาสวายไม้คานเกิดหัก หินที่หาบมาก็หล่นมากองกันจนกลายเป็นเขาสวาย รอยเท้าหลวงตาพรหมในอดีตได้มีผู้คนค้นพบหลายจุดด้วยกันแต่ในปัจจุบันไม่มีใครทราบชัดเจนว่ามีผู้ใดบ้าง

           รูปภาพ ปากปล่องภูเขาไฟ           รูปภาพรอยเท้าหลวงตาพรหม

           สถานที่อื่นๆ เช่น บ่อสัมฤทธิ์ บ่อสกัด น้ำตกโตงใหญ่ น้ำตกผาดอกบัว ผาชมจันทร์ ผาดอกบัวรูปปั้นพุทธประวัติ(บริเวณวัดพนมศิลาราม) บันไดนาคขึ้นศาลาอัฐมุข

           ซุ้มประตูวนอุทยานพนมสวาย เป็นซุ้มประตูที่มีความเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของวนอุทยานพนมสวาย ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยขอมโบราณ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2548-2549 โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในปี 2548 เพื่อพัฒนาพื้นที่เขาสวายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์

รูปภาพซุ้มประตูวนอุทยานพนมสวาย


ประเพณีขึ้นเขาสวาย (เลิงพนมสวาย)


ประเพณีขึ้นเขาสวาย (เลิงพนมสวาย) ประจำปี 2558



          สมฤดี ทวีพร้อม. ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่า เลิงพนมสวายเป็นประเพณีความเชื่อที่สืบทอดมาแต่บรรพบุรษของชาวเขมรสุรินทร์ พวกเขามีศรัทธาต่อประเพณีนี้อย่างแรงกล้า โดยเชื่อกันว่าพนมสวายมีมนต์ขลังแห่งตำนาน เมื่อถึงกำหนดทุกวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติของขอมคนเขมรสุรินทร์ ทุกคนจะหยุดงานทุกอย่างเป็นเวลา ๗ วัน หรือที่เรียกว่า ตอมตูยตอมทมเพื่อการแสวงบุญขึ้น พนมสวายไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ ตนเอง และครอบครัว คนหนุ่มสาวก็จะมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน 







            การจัดงานที่เกิดขึ้นในแต่ละปีนั้นจะมีผู้ให้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในจังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วม สวดมนต์ ภาวนา ทำศีลสมาธิ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนพนมสวาย เพื่อความเป็นสิริมงคลเสริมพลังชีวิต โดยวันที่จัดงานนั้นจะมีการแสดงทั้งกลางวันและกลางคืน ภายในงานมีการแสดงศิลปะพื้นบ้านชาวสุรินทร์ การแสดงชุด รำบวงสรวงพนมสวายและกันตรึม ณ เวทีพิธีเปิด บริเวณซุ้มประตูทางขึ้นเขาสวาย และชมขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมจาก หมู่บ้านต่างๆที่เข้าร่วมกิจกรรม เลิงพนมสวาย โดยในแต่ละปีมีหมู่บ้านเข้าร่วมกิจการ ไม่เท่ากัน มีการประกวดขบวนแห่ด้วย และในแต่ละปีจะมีการกำหนดหัวข้อในการจัดขบวนแห่ของแต่ละหมู่แตกต่างกันไป 






           ในประเพณี เลิงพนมสวาย นอกจากจะเป็นการมาเที่ยวชมการแสดงศิลปะพื้นบ้านชาวสุรินทร์แล้ว ยังมีซุ้มสอยดาวให้ลุ้นกันอีกด้วย ถือว่า เป็นการทำบุญเป็นในตัวเพราะเงินที่ได้จากการสอยดาว จะบริจาคให้กับวัดพนมศิลาราม ผู้คนที่มาเที่ยวชมในวันนั้นมีจำนวนคน มากมาย” ซึ่งทำให้เห็นว่า คนในยุคปัจจุบันนี้ยังมีการ ช่วยกันสืบทอดวัฒนธรรมที่ได้จากการพาลูกหลานมาของตนเองมาเที่ยวชม และจะทำให้มีการเผยแพร่คนสู้คน เชิญชวนให้มาเที่ยวชม ประเพณี เลิงพนมสวาย ใครได้มาเที่ยวแล้วได้ทั้ง สนุกสนาน เพลิดเพลิน อิ่มบุญ จากการกราบไหว้ สักการะสิ่งศักดิ์ ณ พนมสวาย 


ประวัติของวนอุทยานแห่งชาติพนมสวาย (เขาสวาย)

        

                ถวิล ทรงงาม. ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่า พนมสวาย หรือวนอุทยานแห่งชาติพนมสวาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 ตำบลคือ ตำบลนาบัว ตำบลสวาย มีเนื้อที่ 1,975 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาสวายท้องที่ตำบลนาบัว อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ "พนมสวาย" เป็นคำภาษาพื้นที่เมืองสุรินทร์ "พนม" แปลว่าภูเขา "สวาย" แปลว่า "มะม่วง" ในพนมสวายประกอบด้วยภูเขา 3 ลูกติดต่อกันซึ่งมีชื่อพื้นเมืองเรียกแตกต่างกันไป ได้แก่ "พนมกรอล" แปลว่า "เขาคอก" มีความสูงประมาณ 150 เมตร "พนมเปร๊าะ แปลว่า "เขาชาย" มีความสูงประมาณ 220 เมตร "พนมสรัย" แปลว่า "เขาหญิง" มีความสูงประมาณ 210 เมตร รวมกันทั้ง 3 ลูก มีชื่อว่า เขาพนมสวาย

            
             พนมสวายเป็นที่สร้างพลังความศรัทธา ความเลื่อมใสให้แก่ พุทธศาสนิกชนชาวสุรินทร์ โดยลักษณะทางวัฒนธรรมที่มีการสืบทอดมาแต่บรรพบุรษ คือ เลิงพนมสวายเป็นภาษาท่องถิ่นสุรินทร์ หรือเขมร ที่แปลเป็นภาษาไทย ก็คือ ประเพณีขึ้นเขาสวาย



              วนวนอุทยานแห่งชาติพนมสวาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของชาวสุรินทร์ ผู้ที่สนใจมาเที่ยวชม พนมสวาย การเดิมทางเป็นการเดินทางมาง่ายสะดวก และอยู่ไม่ทางจากตัวเมือง การเดิมทาง โดยรถยนต์ การเดินทางจากอำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ สายสุรินทร์-ปราสาท ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตรถึงบ้านกะน๊อบ แยกไปตามเส้นทาง รพช. สายบ้านกะน็อบ-บ้านสวายเป็นทางราดยาง 6 กิโลเมตร รวมระยะทางจากอำเภอเมืองถึงวนอุทยานพนมสวายประมาณ 20 กิโลเมตร